เรซิ่นพิเศษ (Special Purpose Resin)

กลุ่มเรซิ่นพิเศษ (Special Purpose Resin) :
นอกจากนี้ทางบริษัทฯยังมี น้ำยาเรซิ่นเกรดพิเศษ ซึ่งสูงกว่าเกรด Ortho โดยจะมีจุดเด่นที่เพิ่มขึ้นแตกต่างกันไป เช่น เพิ่มความแข็งแรง, สามารถทนกรด ทนด่างได้เป็นอย่างดี, ทนความชื้นได้เป็นอย่างดี หรือ แห้งตัวไวมาก เป็นต้น
• Epoxy Resin: เป็นเรซิ่นที่มีการใช้งานในอุตสาหกรรมที่หลากหลายมากๆ เนื่องจากคุณสมบัติที่โดดเด่น เช่น
- การยึดติดหรือทำหน้าที่คล้ายกาว (adhesives)
- การทนต่อสารเคมีและความร้อน
- ความทนทานของชิ้นงาน
- ความสามารถในการเป็นฉนวนไฟฟ้า
ดังนั้นจึงมีการนำ Epoxy Resin ไปใช้ในการผลิตชิ้นงานที่หลากหลายมากๆ เช่น หล่อชิ้นงานที่ต้องการความแข็งแรงทนทานมากกว่าปรกติ, การทำชิ้นงานไฟเบอร์กลาสที่มีคุณภาพที่สูงขึ้น, การทำพื้นในโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องทนต่อสารเคมีและแรงกระแทก, เป็นตัวเชื่อมในกระบวนการผลิต เป็นต้น

• Isophthalic Resin: หรือ เรซิ่น เกรดไอโซ มีราคาที่สูงกว่าเรซิ่นเกรด Ortho และมักเป็นเกรดเรซิ่นที่ถูกเลือกใช้มากกว่าเรซิ่นเกรด Ortho ในกรณีที่ต้องการชิ้นงานที่มีความแข็งแรง (strength), ความยืดหยุ่น (flexibility) และความทนทานต่อสารเคมี (chemical resistance) มากขึ้น เช่น ในงานไฟเบอร์กลาสสำหรับใช้ในโรงงานอุสาหกรรม เป็นต้น

• Vinyl Ester Resin: หรือเรซิ่นเกรดไวนิล ถือเป็นเรซิ่นเกรดสูงและมีราคาที่ค่อนข้างสูง จึงถูกนำมาใช้ในสินค้าที่มีราคาสูง เช่น เรือยอช เป็นต้น Vinyl Ester Resinให้คุณสมบัติที่โดดเด่นกว่าเรซิ่นเกรดๆอื่น คือ
- ทนทานต่อกรด,ด่าง และสารเคมีหลากหลายชนิด
- กันน้ำและทนความชื้นได้ดีขึ้น จึงมักใช้ Vinyly Ester Resin ในงานที่ต้องสัมผัสกับความชื้นตลอดเวลาเพื่อเพิ่มอายุการใช้งานของสินค้านั้นๆ เช่น ทำเป็นส่วนผิวด้านในของถังน้ำซึ่งเป็นส่วนที่สัมผัสกับน้ำ
- ชิ้นงานมีความแข็งแรงทนทานมากขึ้น มีการแตกร้าวน้อยลง (physical properties) เนื่องจากความสามารถในการดูดซับแรงกระแทก

• Polyurethane Resin (PU Resin): ได้รับความนิยมในการนำมางานประเภท ผลิตต้นแบบ (Prototype), ทำแม่พิมพ์ (mould) โดยมีข้อดีในเรื่อง
- การทนรอยขีดข่วนได้ดี,
- การเก็บรายละเอียดต้นแบบได้สูง และมีการหดตัวที่ต่ำ
- มีความทนทานต่อสารเคมี, น้ำมัน, และคราบต่างๆ ทำให้เพิ่มอายุการใช้งานของสินค้า
- สามารถนำมาหล่อชิ้นงานที่มีความบางแต่ยังคงความแข็งแรงไว้ได้